
จะทำอย่างไรเมื่อต้องเอาชีวิตรอดในดงซอมบี้ กับภาพยนตร์ #ALIVE
จะทำอย่างไรเมื่อต้องเอาชีวิตรอดในดงซอมบี้ กับภาพยนตร์ #ALIVE กำลังเป็นที่น่าจับตามองสุดๆ กับวงการภาพยนตร์เกาหลี ที่กำลังมาแรงมาก ในยุคนี้ ซึ่งนอกจากซีรีส์เกาหลีที่คนทั่วบ้าน ทั่วเมืองฮิตกันจนไม่เป็นอันหลับอันนอน วันนี้เราจะพาไปรู้จักกับภาพยนตร์ #ALIVE อีกหนึ่งภาพยนตร์ที่เกาะกระแส asset ใหม่
‘ ซอมบี้สัญชาติเกาหลี ’ ( K-ZOMBIE ) ซึ่งกลายเป็นของเด่นของดังให้งานบันเทิงเกาหลีผงาดขึ้นเรียกความสนใจจากทั่วโลก ทั้งๆที่ผีดิบซอมบี้ มีมานานแล้ว จากฟากบันเทิงตะวันตก แต่เหมือนการกลายพันธุ์แตกยีนใหม่ที่ต่างรูปลักษณ์ต่างอรรถรส มีเสน่ห์โดนใจ หลังการกำเนิดครั้งแรก อย่างฮือฮาจาก Train to Busan
และการเลี้ยงกระแสตามมาของ Ramphant, Kingdom, Peninsula และอีกบางเรื่องที่หยิบไปดัดแปลงใช้เป็นกิมมิคบ้าง ก็คงอาจจะดูจืดๆ ไปบ้างถ้าจะเจอหนังซอมบี้มาขายซ้ำในวิถีเดิมๆ อีก
แต่ #ALIVE มีมุมน่าสนใจ ในการหยิบซอมบี้ มาเป็นบทสำคัญ ในการสร้างเรื่องราวการเผชิญหน้าจัดการปัญหา และการเติบโตทางความคิดของเด็กหนุ่มธรรมดา ๆ ในสังคมคนหนึ่ง เด็กหนุ่มที่แอคทีฟเก่งกล้าเป็น somebody ในโลกเกมออนไลน์ แต่การไฟต์ติงเพื่อรอดในชีวิตจริงแบบเป็น nobody ไม่ประสีประสาทักษะชีวิตอื่นๆ
ก็เป็นอีกเรื่องที่เขาไม่เคยคาดคิดว่าจะเจอ ถึงคราวเจอก็ออกจะอยากมองข้ามด้วยซ้ำ อยากทิ้งให้เป็นปัญหาของผู้ใหญ่ของสังคม ด้วยมุมมองของเด็กติดเกม ที่มักไม่สนใจเรื่องใดๆรอบตัวอยู่แล้ว แม้แต่คำพูดของแม่เตือนให้ไปเรียนไปซื้อของกินยังถูกละเลยเสมอ
หนังมีนัยในการสื่อการย้ายโลกทัศน์ ของเขาออกจากจอคอมหรือเกมซึ่งมีเพื่อนๆ เยอะก็จริง ออกมาเจอเพื่อนใหม่ในโลกจริงออฟไลน์ ที่แม้จะมีแค่คนเดียวในสถานการณ์วิกฤตนี้ ก็สุดแสนจะมีค่า แต่ในขณะเดียวกันก็สะท้อนมุมดี ๆ อีกด้านของสื่อโซเชียลในโลกยุคดิจิตอล ที่เหมือนลมหายใจ เข้าออกของคนยุคนี้ ให้มีบทบาทสำคัญ ในการช่วยให้ผู้คนรอดตายหายใจได้ต่อไป

โอจุนอู ( รับบทโดย ยูอาอิน ) เด็กวัยรุ่นที่อาศัยอยู่ใน บ้านอพาร์ตเมนต์ กับพ่อแม่และพี่สาว เขามักโดดเรียนประจำ เพราะติดเกม ตื่นสาย และเอาแต่ฝังตัวอยู่ในห้องเล่นเกมช่ำชองจนมีเพื่อน ในเกมออนไลน์เยอะแยะ วันหนึ่งที่เขาตื่นมาลำพังในบ้าน แล้วพบกับความโกลาหลรอบอพาร์ตเมนต์ที่อาศัยอยู่ เพราะมีฝูงซอมบี้ วิ่งไล่กัดผู้คน ซึ่งพากันวิ่งหนี อย่างแตกตื่นทั้งด้านนอก และในอาคารทั่วบริเวณละแวกบ้าน
จากข่าวรายงานว่า อาการซอมบี้ซึ่งไม่เคยมีมาก่อนนี้ เป็นที่ถกเถียงจน เชื่อว่าคือโรคติดเชื้อจากไวรัส ( ช่างดูเข้ากับบรรยากาศโควิด – 19 ระบาดเลย ) ที่เข้าสู่สมองอย่างรวดเร็ว ทำให้คนเราเปลี่ยนไปมีพฤติกรรมความรุนแรง หิวโหยไล่กัดกินเนื้อคน คนถูกกัดก็จะติดเชื้อออกอาการซอมบี้ ลามระบาดกันต่อๆไป
เบื้องต้นทางการก็ได้ แต่เตือนให้ประชาชนอยู่ในบ้าน เพื่อความปลอดภัย หลีกเลี่ยงการอยู่ใกล้หรือสัมผัส ผู้คนที่ติดเชื้อ ใครๆก็ไว้วางใจไม่ได้ แต่ถ้าต้องหลบตัวเงียบๆอย่างหวาดระแวงอยู่อย่างนี้ต่อเนื่องนานหลาย ๆ วัน หรือเป็นเดือน ชีวิตจะเป็นอย่างไร คงไม่ง่ายหรอก
ไม่เพียงความ ‘ โดดเดี่ยวลำพัง ’ ( ตามชื่อหนังเดิมว่า #Alone ) ที่เขากำลังเผชิญเองคนเดียว แต่ยังโดนซ้ำเติมด้วยการถูกตัดขาดการสื่อสาร อินเตอร์เน็ต น้ำไฟ สำหรับคนยุคนี้ก็คงเปรียบเหมือนการขาดแขนขา ทำอะไรไม่ได้สักอย่าง ไปไม่เป็นกันเลยเชียว

ยูบิน ( รับบทโดย พัคชินฮเย ) เป็นหญิงสาวอีกคนที่ยังรอดพ้นจากการติดเชื้อ และยังหลบอยู่ในบ้านอพาร์ตเมนต์ฝั่งตรงข้าม กับจุนอูโดยลำพังเช่นกัน ซึ่งจุนอูเพิ่งมาพบเห็นเธอภายหลังจากที่ตัวเองผจญภัย กับซอมบี้ไปอย่างทุลักทุเล จนจวนจะสิ้นสุดความอดทน กับการต่อสู้เพียงลำพัง ไปซะแล้ว ยูบินจะมาเป็นทั้ง ‘ ตัวช่วย ’ และ ‘ เพื่อน ’ คนใหม่ คนเดียวที่มีค่ามากสำหรับจุนอู การได้พบกับยูบิน เหมือนได้แรงบันดาลใจ และความหวังที่จะผ่านประสบการณ์ อันเลวร้ายนี้ ไปด้วยกันให้ได้ และ จะเป็นจุดเปลี่ยนแปลงชีวิตเขา
เรียกได้ว่า หนังเรื่องนี้จะโฟกัส โมเมนท์การเผชิญหน้า กับปัญหาและเอาชีวิตให้รอดพ้นจากอันตรายของซอมบี้ หนังลดทอนรายละเอียด บริบทอื่นๆออกไป และจะดำเนินเรื่อง ให้เราเห็นพัฒนาการของตัวละครจุนอูที่ค่อย ๆ เปลี่ยนไป ทั้งการมองปัญหา การเรียนรู้วิธีการเอาชีวิตรอด และความคิดการตัดสินใจ
แซมด้วยฉากแอคชันตื่นเต้นลุ้นหวาดเสียวบ้างเป็นครั้งคราว ฉากกดดันความรู้สึก ชวนอึดอัด หรือแม้กระทั่งความหดหู่สิ้นหวัง ซึ่งก็ยังมีสลับหยอดความหวังมาชูใจบ้าง ให้คนดูคอยตามติดลุ้นกลับไปกลับมาว่า เขาจะปลอดภัย ได้ตลอดรอดฝั่งหรือไม่ เพราะไม่เพียงต้องสู้กับซอมบี้ แต่ต้องสู้กับความกลัว สู้กับใจตัวเองด้วย
สรุปแล้ว ภาพยนตร์เรื่อง #ALIVE จึงเป็นความสนุกในแบบที่ต้อง ไม่ตั้งความคาดหวังว่าจะมีฉากแอคชั่นบ้าระห่ำอย่างหนังทั่วๆ ไป หรือทริลลิ่งสุดระทึก หรือจะเป็นเรื่องราวที่มาที่ไปอะไรมากมาย แบบภาพยนตร์ซอมบี้อื่น ๆ ที่เคยดูมา
เพราะภาพยนตร์เรื่องนี้นั้นคงตั้งใจให้เหล่าคนดูโฟกัสกันไปที่ การเอาชีวิตให้อยู่รอดมากกว่า ทั้งความหมายตรง ตามตัวอักษร ( Literally ) และความหมายโดยนัยที่แฝงไว้ ให้เป็นข้อคิด และชวนให้คิดกันต่อไป
บริหารการเงินด้วย 5 วิธี จากวิกฤติโรคร้ายอย่าง COVID-19 ที่เริ่มต้นระบายมาตั้งแต่ปลายปี 2019 จนปัจจุบันนั้นยังมีการระบาดที่เกิดขึ้นอย่างไม่หยุดหย่อน สำหรับหลายๆ คน อาจจะรู้สึกว่ามันเป็นระยะเวลานานเหลือเกินอยู่แต่บ้านทั้งวันทั้งคืน
อ่านบทความเพิ่มเติมได้ที่ : เที่ยว 5 เมืองรอง ที่ต้องลองไปสักครั้ง!