มือใหม่หัดขับรถยนต์ ขับมั่นใจ ปลอดภัยทุกเส้นทาง

มือใหม่หัดขับรถยนต์ ขับมั่นใจ ปลอดภัยทุกเส้นทาง

มือใหม่หัดขับรถยนต์ ขับมั่นใจ ปลอดภัยทุกเส้นทาง เคยมั้ย? เป็นกังวลทุกครั้ง เวลาต้องขับรถออกถนนใหญ่ จะไปไหนก็ไม่ค่อยมั่นใจในเส้นทาง และการเข้าเลน แถมตอนจะถอยจอดที่ไหน ขาดความคล่องแคล่ว ต้องเล็งแล้วเล็งอีกจนเมื่อยกว่าจะสำเร็จ เรื่องเหล่านี้เป็นธรรมดาของคนขับมือใหม่ ที่ต้องพบเจอเสมอ เพราะการขับรถให้เก่งนั้น ต้องใช้เวลาและประสบการณ์ บนท้องถนนที่พบเจอ สั่งสมจนเกิดเป็นความเชี่ยวชาญในการขับขี่

โดยในครั้งนี้ เราในฐานะเจ้าของรถที่พึ่งถอยป้ายแดงมาใหม่ ต้องฝึกฝนและเรียนรู้อะไรบ้าง ถึงจะช่วยทำให้ทุกการเดินทางของเรา ไปถึงที่หมายได้อย่างปลอดภัย และเป็นสิ่งที่ควรฝึกฝนไว้ให้เกิดประสบการณ์ ตามมาดูกันได้เลย

1. ศึกษาเส้นทางให้ดีก่อนขับไปที่ใหม่

อย่าไว้ใจ Google Map จนเกินไป ยิ่งเวลาที่เราต้องขับรถไปต่างจังหวัด เพราะปกติแล้ว Google จะมองหาเส้นทางที่สั้นและลัดที่สุด เพื่อประหยัดเวลาเดินทางให้เราเสมอ แต่เจ้าเส้นทางที่สั้นที่สุดในต่างจังหวัดนั้น ส่วนใหญ่จะเป็นตรอกซอกซอยที่เล็ก จนบางครั้งก็แคบขนาดที่รถยนต์แทบจะวิ่งไม่ได้ แถมยังเป็นถนนลูกรังอีกต่างหาก ยิ่งถ้าเป็นช่วงกลางคืนที่ไม่มีไฟถนน ถ้าหลงเข้าไปแล้วจะยิ่งอันตราย แถมถ้าโชคร้ายเข้าไปอยู่ในจุดอับสัญญาณโทรศัพท์แล้วล่ะก็ นอกจากจะพึ่งพา Google Map ไม่ได้แล้วยังโทรขอความช่วยเหลือใครไม่ได้อีกต่างหาก เรียกได้ว่าเป็นสถานการณ์คับขัน ที่ไม่ควรมีใครต้องเจอแบบนี้เป็นอย่างยิ่ง

วิธีแก้ก็คือก่อนที่จะเดินทาง ไปยังสถานที่ไม่คุ้นเคย ไม่ว่าจะในเมือง หรือตามต่างจังหวัด ไม่ควรกดปักหมุดบน Google Maps แล้วออกเดินทางทันที ควรศึกษาเส้นทาง และประเมินความเสี่ยงที่อาจจะเกิดขึ้นเสียก่อน และให้เวลาขับรถก็ให้หมั่นสังเกตป้ายเขียวบอกทาง จะได้เตรียมการเปลี่ยนเลนล่วงหน้าทัน

2. ทำความรู้จักส่วนต่าง ๆ ของรถให้กระจ่าง

ก่อนที่จะเริ่มออกรถ จะดีมากถ้าเรารู้จักส่วนต่าง ๆ ที่จำเป็นสำหรับการใช้งานให้แม่นยำ ตั้งแต่เรื่องพื้นฐานสุด ๆ อย่างฝาน้ำมันอยู่ข้างไหนของตัวรถ (ซึ่งเราสามารถเช็กได้ง่าย ๆ เพียงสังเกตที่เกจน้ำมัน ว่ามีลูกศรชี้ไปฝั่งซ้ายไหม? ถ้าไม่มีแสดงว่าจุดเติมน้ำมันของรถเราจะอยู่ฝั่งขวา) ไปจนถึงวิธีเปิดกระโปรงหน้ารถที่ถูกต้อง ฝาหม้อน้ำอยู่ตรงไหน จะได้ไม่เผลอไปเปิดตอนเครื่องยังร้อน จะเช็กน้ำมันเครื่องต้องดูยังไง ยางอะไหล่ในรถมีอยู่หรือเปล่า มีสายชาร์จสำหรับเชื่อมแบตเตอรี่ เก็บไว้ใช้งานหรือไม่ ฯลฯ

ฟังดูเรื่องเรื่องพื้นฐานแบบสุด ๆ แต่เชื่อเถอะ ว่ามันคือสิ่งจำเป็น โดยเฉพาะเมื่อเราจำเป็นต้องขับรถคันอื่นที่ไม่คุ้นเคย ก็ควรจะต้องทำความรู้จักทุกฟังก์ชั่น ที่จำเป็นก่อนออกรถเสมอนะ

3. ขับช้าชิดซ้ายไม่แช่เลนขวา

ไม่จำเป็นไม่ควรขับรถแช่ขวานาน ๆ เพราะอาจสร้างความรำคาญ และผิดกฏหมายได้ นอกจากจะเป็นมารยาทบนท้องถนนแล้ว ตามกฏหมายจราจรใน พรบ.จราจรทางบก ปี 2522 มาตรา 34 ระบุไว้ชัดเจนเลยว่า เราต้องขับรถในช่องซ้ายสุดเท่านั้น เว้นแต่ถูกกีดขวาง ปิดการจราจร เมื่อจะแซงหน้ารถคันอื่น หรือเมื่อขับขี่ด้วยความเร็วสูงกว่ารถ ในช่องทางด้านซ้าย โดยเฉพาะนักขับมือใหม่อย่างเรา ที่ยังไม่ค่อยมั่นใจในเส้นทาง การเลือกขับรถโดยไม่ใช้ความเร็วมากนัก ไม่ควรขับแช่ที่เลนขวาเป็นอย่างยิ่ง

4. รักษาช่องทางเว้นระยะห่างกับรถคันหน้า

ถึงความสัมพันธ์ จะไม่ควรห่างไกล แต่การขับรถนั้น ยิ่งใกล้กลับยิ่งเสี่ยงมากขึ้น โดยเฉพาะการเบรกเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝัน ถ้าไม่เว้นระยะห่างเอาไว้ให้พอกับระยะหยุดรถ ก็อาจจะจูบท้ายรถคันหน้าได้ ถึงแม้จะไม่มีหลักการที่ชัดเจนระบุเอาไว้ในกฏจราจร ว่าควรขับห่างจากรถคันหน้าเท่าไหร่ แต่ก็ควรเว้นระยะเอาไว้ประมาณ 1-2 ระยะคันรถ ขึ้นอยู่กับความเหมาะสมของสภาพการจราจรในขณะนั้น

อีกเรื่องที่หลายคน มักจะพลาดกันบ่อยเช่นกัน ก็คือการขับรถคร่อมเลน ไม่ยอมรักษาช่องทางของตัวเอง ซึ่งนอกจากจะเป็นการแสดงมารยาทที่ไม่เหมาะสมบนท้องถนน จนทำให้คนอื่นต้องลำบาก ยังอาจเกิดอันตรายขึ้นได้ จากการไปขวางช่องทางเดินรถของคนอื่นได้อีกด้วย

5. ไม่ขับเร็วจนเกินไป หมั่นดูป้ายข้างทาง

เข้าใจว่าบางครั้งเวลาเจอถนนโล่ง ๆ เราก็อยากจะใช้ความเร็วในการขับขี่บ้าง แต่ก็อยากจะให้ผู้ขับขี่ทั้งหลาย ระมัดระวังเรื่องของการใช้ความเร็ว เกินกำหนดเอาไว้เสมอ โดยเฉพาะตอนที่ขึ้นทางด่วน เราจะสังเกตเห็นว่าบางช่วงของเส้นทาง จะมีการตั้งกล้องจับความเร็วเอาไว้ตามจุดต่าง ๆ และมีการกวดขันเรื่องการใช้ความเร็วอยู่มาก ดังนั้น ถ้าไม่อยากได้ใบสั่งจากกล้องจับความเร็วส่งถึงบ้าน และเพื่อความปลอดภัย ให้ดูป้ายจำกัดความเร็วข้างทาง และพยายามอย่าใช้ความเร็วเกินกว่าที่ปรากฏอยู่ในป้าย

6. ไม่เล่นมือถือเวลาที่จับพวงมาลัย

ถือเป็นเรื่องพื้นฐานที่ทุกคนต้องรู้ เพราะเราไม่ควรทำกิจกรรมใด ๆ ที่ทำให้เราต้องละสายตาหรือเสียสมาธิ จากความเคลื่อนไหวบนถนนขณะขับรถ โดยเฉพาะเมื่อเวลารถติดที่เราเข้าใจว่ามันน่าเบื่อ แต่การละสายตาเพียงเล็กน้อยไปเช็กเฟสบุ๊คหรือไลน์ ก็อาจทำให้เกิดอุบัติเหตุไม่คาดฝันได้ ถ้าจำเป็นจริง ๆ ให้พึ่งการใช้หูฟังหรือ Handsfree เพื่อการคุยโทรศัพท์ หรือฟังสื่อบันเทิงแทนการดู แต่ก็ต้องระมัดระวัง และเพ่งสมาธิไปที่บนเส้นทางด้านหน้า มากกว่าสิ่งอื่นใดด้วยนะ

7. เลือกที่จอดให้ดี ถ้าไม่อยากเจอเหตุไม่คาดฝัน

คนที่ขับรถเป็นประจำจะรู้กันดี ว่าการหาที่จอดรถดี ๆ นั้น ไม่ใช่เรื่องง่ายเลย ซึ่งเราก็ขอแนะนำว่าการมองหาที่จอดรถให้เลือกจุดจอดมีไฟส่องสว่าง มีผู้คนพลุกพล่าน และถ้าเป็นไปได้ ก็แนะนำให้จอดรถในสถานที่ที่จัดมาให้โดยเฉพาะ เพราะจะมีคนช่วยดูแลรวมถึง อาจจะมีกล้องวงจรปิดติดตั้งเอาไว้ให้เราอุ่นใจขึ้น และถ้าเป็นไปได้ให้เลือกจอดภายในแถวไม่แยกออก มาจอดห่างจากกลุ่มรถ เพราะจะช่วยลดความเสี่ยงจากรถคันอื่น ขับมาเฉี่ยวชนให้เกิดริ้วรอยที่น่าเจ็บใจอีกด้วย

8. รถสตาร์ทไม่ติด ต้องศึกษาไว้เป็นการดี

สำหรับมือใหม่หลายคน แค่ขับรถก็ว่ายากแล้ว การดูแลรถยนต์ให้อยู่ในสภาพดียิ่งยากขึ้นไปอีกขั้น แต่ก็เป็นสิ่งจำเป็นที่คนขับรถทุกคน ควรจะทำให้ได้ โดยเฉพาะเมื่อเกิดเหตุไม่คาดฝันอย่าง “รถสตาร์ทไม่ติด” ที่เป็นฝันร้ายที่หลายคนไม่อยากเจอ ซึ่งสาเหตุและวิธีแก้ไขก็มีหลากหลาย อาทิ รถสตาร์ทไม่ติด เพราะแบตเตอรี่เสื่อม วิธีแก้ก็คือการขอพ่วงแบตเตอรี่ มาจากรถยนต์คันอื่นที่จอดไว้ใกล้ ๆ หากพ่วงแล้วสตาร์ทติดง่ายขึ้น ก็เป็นสัญญาณการเสื่อมของแบตเตอรี่ ที่ควรจะเปลี่ยนได้แล้ว

ถ้าขณะที่กำลังขับรถแล้วอยู่ ๆ ตัวเครื่องก็ค่อย ๆ เบาลงจนดับไปกลางอากาศล่ะก็ อาจจะเป็นสัญญาณ ของอาการไดชาร์จเสื่อม ซึ่งควรเรียกช่างผู้ชำนาญการมาเปลี่ยนอะไหล่ ที่จำเป็นโดยเร็วที่สุดจะดีกว่า ถ้าบิดกุญแจแล้วสตาร์ทไม่ติด โดยที่ไม่มีแผงไฟที่หน้าปัดคอนโซลขึ้นมาให้เราเห็นล่ะก็ สามารถสัญนิษฐานได้เลยว่า น่าจะเป็นเพราะระบบไฟฟ้าในรถของเรานั้น เกิดปัญหาเข้าแล้ว โดยอาการนี้สามารถแก้ได้ด้วยการพ่วงแบตเตอรี่จากรถคันอื่น แต่ถ้ายังไม่หายก็แนะนำให้เรียกช่างผู้ชำนาญมาแก้ไขแทน

9. อย่าลืมต่อ พ.ร.บ. พร้อมภาษีประจำปีตามกฏหมาย

หนึ่งในค่าใช้จ่ายหลักสำหรับคนใช้รถ ที่ต้องเตรียมไว้เป็นประจำทุกปี นั่นคือค่าใช้จ่ายด้านภาษี และค่าต่อประกันภัยภาคบังคับ (พ.ร.บ.) ที่ต้องทำไว้ตามกฏหมาย เพื่อเป็นความคุ้มครองเบื้องต้น เพราะหากเกิดอุบัติเหตุแล้ว แต่เจ้าหน้าที่ตรวจพบว่าไม่ต่อภาษี ก็อาจทำให้ถูกดำเนินคดีได้ ที่สำคัญหากได้ทำการต่อภาษีรถยนต์แล้ว ห้ามลืมเปลี่ยนป้ายหน้ารถให้เรียบร้อย ไม่งั้นหากคุณตำรวจจราจรเรียกตรวจ ก็อาจจะต้องถูกปรับ โดยไม่คาดคิดก็เป็นได้

10. ทำประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจไว้ เกิดเหตุเมื่อไหร่ก็รับมือไหว

นอกจากการทำประกัน ภาคบังคับตามกฏหมายแล้ว อีกหนึ่งทางเลือกที่คนขับรถทุกคน ควรมีไว้นั่นก็คือ ประกันภัยรถยนต์ภาคสมัครใจ ซึ่งเราก็ขอแนะนำ “ประกัน Sunday” ที่จะช่วยเสริมความคุ้มครอง ที่จะทำให้ชีวิตการขับขี่ของทุกคนอุ่นใจ ไม่ว่าจะเกิดเหตุอะไรก็ตาม ทำอย่างไรเมื่อต้องขึ้นเครื่องบินครั้งแรก

บทความอื่น ๆ เพิ่มเติม : 10 เทคนิคเรียนออนไลน์อย่างไรให้ได้ผล

มือใหม่หัดขับรถยนต์ ขับมั่นใจ ปลอดภัยทุกเส้นทาง