11 วิธีดูเเลเเบตฯโทรศัพท์ระบบ Android

11 วิธีดูเเลเเบตฯโทรศัพท์ระบบ Android

11 วิธีดูเเลเเบตฯโทรศัพท์ระบบ Android

11 วิธีดูเเลเเบตฯโทรศัพท์ระบบ Android เชื่อได้เลยว่าในชีวิตประจำวันของคนเราทุกคนนั้นจะต้องให้ความสำคัญกับโทรศัพท์มือถือเป็นหลักเเน่นอน ดังนั้นวันนี้เราจึงได้นำข้อมูลดีๆในการรักษาแบตเตอรี่ โทรศัพท์ให้ใช้ได้นานๆ มาฝากทุกคน ไปดูกันเลยว่ามีขั้นตอนหรือวิธีอย่างไรบ้าง

1. ปรับความสว่างของหน้าจอด้วยตัวเอง

11 วิธีดูเเลเเบตฯโทรศัพท์ระบบ Android

ผู้ใช้ Andriod ส่วนมากจะตั้งค่า ให้ปรับความสว่างหน้าจอแบบอัตโนมัติ แต่จะเป็นการดีกว่าหากคุณปรับความสว่างหน้าจอด้วยตัวเอง และเมื่อคุณอยู่ในตัวอาคารหรือในที่ที่มีแสงน้อย สมาร์ทโฟนของคุณจะปรับความสว่างในระดับสูงทำให้กินแบตฯ ไปอย่างมาก ดังนั้น ผู้ใช้งานควรปรับความสว่างด้วยตัวเอง โดยเมื่อเวลาอยู่ในช่วงกลางคืนก็สามารถปรับให้มีความสว่างน้อยเพื่อประหยัดแบตฯ ไปได้ไม่น้อยเลยทีเดียว

2. ปิด Bluetooth, Wi-Fi และ ตำแหน่งเมื่อไม่ได้ใช้งาน

11 วิธีดูเเลเเบตฯโทรศัพท์ระบบ Android

เป็นทริคแรกที่เราจะแนะนำ ให้ผู้ใช้งานได้ประหยัดแบตฯ โดยเมื่อคุณไม่ได้ใช้งานฟังก์ชั่นต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น Bluetooth, Wi-Fi, ตำแหน่ง GPS หรือ Hotspot ซึ่งถ้าผู้ใช้งานเปิดใช้งานอยู่ตลอดเวลาจะเป็นการกินแบตฯ อย่างมาก โดยผู้ใช้สามารถปิดฟังก์ชั่นต่างๆ ได้ด้วยตัวเองผ่านทางแถบแจ้งเตือนหรือในการตั้งค่า

3. ปิดการอัพเดตแอพพลิเคชั่นโดยอัตโนมัติ

11 วิธีดูเเลเเบตฯโทรศัพท์ระบบ Android

การอัพเดตแอพพลิเคชั่น โดยอัตโนมัติเป็นสิ่งที่สำคัญอีกอย่างหนึ่ง เพราะเมื่อแอพฯ ทำการอัพเดตจะทำให้เกิดการเชื่อมต่อข้อมูลที่มากขึ้น และหากการเชื่อมต่อสัญญาณของผู้ใช้งานต่ำแต่ดาวน์โหลดไฟล์ขนาดใหญ่ แล้วนั่นยิ่งทำให้ใช้เวลานานขึ้นไปอีก ส่งผลให้แบตฯ ถูกใช้งานไปกับส่วนนี้ค่อนข้างมาก ดังนั้น สิ่งที่ผู้ใช้งานควรทำคือ การปิดอัพเดตแอพฯ อัตโนมัติจาก Google Play Store ซึ่งคุณสามารถเช็คการอัพเดตได้เองเมื่อคุณพร้อม โดยให้ไปที่ Google play store เลือก Settings > Auto-update apps และเลือกที่ไม่ต้องอัพเดตแอปอัตโนมัติ

4. ปิดเสียงแจ้งเตือนและการสั่นที่ไม่ต้องการให้เรียบร้อย

11 วิธีดูเเลเเบตฯโทรศัพท์ระบบ Android ปิดเสียงแจ้งเตือนและการสั่นที่ไม่ต้องการให้เรียบร้อย

ในการใช้สมาร์ทโฟนมักจะมีการแจ้งเตือนต่างๆ มากมายไม่ว่าจะเป็นแบบเสียงหรือแบบสั่น โดยการสั่นหรือเสียงเตือนมักจะมาพร้อมกับการกดหมายเลขโทรศัพท์, การแจ้งเตือนแอพฯ ต่างๆ รวมไปถึงเสียงล็อกหน้าจอด้วยเช่นกันที่ส่งผลให้แบตฯ ลดลงได้ทีละเล็กละน้อย ดังนั้น ผู้ที่ใช้งานก็ควรที่จะปิด สิ่งแจ้งเตือนที่ไม่จำเป็นนี้ให้หมดปัญหาไป ซึ่งผู้ใช้งานสามรถปิดได้โดยไปที่ Settings > Sound & Notification (เสียงและการแจ้งเตือน) > Other Sound (เสียงอื่น) และทำการปิดเสียงและการสั่นที่ไม่จำเป็นออก

5. ใช้วอลเปเปอร์ที่เรียบและงดการใช้วอลเปเปอร์ที่เป็นภาพเคลื่อนไหว

11 วิธีดูเเลเเบตฯโทรศัพท์ระบบ Android ใช้วอลเปเปอร์ที่เรียบและงดการใช้วอลเปเปอร์ที่เป็นภาพเคลื่อนไหว

วอลเปเปอร์แบบเคลื่อนไหว เป็นสิ่งที่ดูสวยแต่ก็ใช้งานแบตเตอรี่ไปไม่น้อยเลยทีเดียว ซึ่งผู้ใช้งานควรใช้งานวอลเปเปอร์แบบเรียบๆ มากกว่า นอกจากนี้สมาร์ทโฟนที่มีหน้าจอแบบ AMOLED เราแนะนำให้ใช้วอลเปเปอร์ที่เป็นสีดำเพื่อรักษาแบตฯ ให้ใช้ได้นานยิ่งขึ้นไปอีกขั้น

6. ตั้งค่าหมดเวลาหน้าจอในเวลาที่ไม่นานเกินไป

ตั้งค่าหมดเวลาหน้าจอในเวลาที่ไม่นานเกินไป

ผู้ใช้งานควรตั้งค่า หมดเวลาหน้าจอในเวลาที่สั้น เพื่อยืดระยะเวลาการใช้งานแบตฯ สำหรับสมาร์ทโฟน Android ของคุณ ซึ่งผู้ใช้งานควรตั้งเวลาหมดหน้าจอน้อยกว่า 1 นาที เพราะเมื่อคุณไม่ได้ใช้งานสมาร์ทโฟนและลืมล็อกเครื่อง การตั้งค่าในฟีเจอร์นี้จะช่วยให้ลดการกินแบตฯ ไปได้อีกเพียบ

7. เปิดใช้งานโหมดประหยัดพลังงาน

โหมดประหยัดพลังงานเป็นฟีเจอร์ ที่ให้ผู้ใช้ Android ตั้งแต่ Android 5.0 Lollipop ขึ้นไปได้ใช้งานกัน ซึ่งคุณสามารถใช้งานฟีเจอร์นี้ได้ เพื่อประหยัดแบตฯ แบบขั้นสูงแต่จะลดความสามารถในการทำงานของสมาร์ทโฟนบางอย่างไป โดยโหมดนี้ จะทำการปิดการทำงานเบื้องหลังและเอฟเฟคต่างๆ นอกจากนี้ในสมาร์ทโฟนหลายๆ รุ่นยังมีโหมดประหยัดพลังงานขั้นสูงเพื่อช่วยให้สมาร์ทโฟนของผู้ใช้งานทำงานได้นานขึ้นอย่างมาก

8. ทริคสำหรับผู้ใช้หน้าจอแบบ AMOLED

ทริคสำหรับผู้ใช้หน้าจอแบบ AMOLED

ถ้าสมาร์ทโฟนของคุณมีหน้าจอแบบ AMOLED แล้วล่ะก็ เรามีทริคเด็ดๆ 2 อย่างด้วยกันเพื่อเพิ่มระยะเวลาในการใช้งานสมาร์ทโฟนให้นานขึ้น ได้แก่ ใช้พื้นหลังสีดำแบบเรียบและคีย์บอร์ดสีดำ เพราะจะเป็นการช่วยให้หน้าจอหยุดใช้งาน พิกเซลบนหน้าจอโดยอัติโนมัติ

9. ปิดการใช้งานข้อมูลที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง

ปิดการใช้งานข้อมูลที่ทำงานอยู่เบื้องหลัง

มีหลายแอพพลิเคชั่นแน่นอนที่คุณได้เรียกใช้งานซึ่งก็จะมีหลายแอพฯ ที่ใช้ข้อมูลอยู่เบื้องหลังเช่นกัน ดังนั้นผู้ใช้งานก็ควรปิดการใช้ข้อมูลเบื้องหลังนี้ไปซึ่งมีขั้นตอนการทำคือไปที่ Settings > Data Usage (การใช้ข้อมูล) > เลือกที่ตัวเลือก (จุด 3 จุด) จากนั้นให้ผู้ใช้งานเลือกแอพฯ ที่ต้องการจำกัดข้อมูลพื้นหลัง แล้วจึงกด ตกลง เป็นอันเสร็จพิธี

10. เทคนิคการชาร์จแบตฯ เพื่อยืดอายุไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว

เทคนิคการชาร์จแบตฯ เพื่อยืดอายุไม่ให้แบตเตอรี่เสื่อมเร็ว

เทคนิคการชาร์จสามารถช่วยยืดระยะให้แบตเตอรี่ของเราอยู่กับสมาร์ทโฟนไปได้อย่างยาวนาน โดยมีเทคนิคการชาร์จดังนี้

  • ชาร์จเมื่อแบตเตอรี่อยู่ระหว่าง 30% และ 80%
  • ไม่ควรใช้งานสมาร์ทโฟนขณะชาร์จ
  • ใช้สายชาร์จที่ได้สมาตรฐานของเครื่อง
  • ใช้แบตเตอรี่ของแท้
  • พยายามให้แบตเตอรี่ของสมาร์ทโฟนไม่ร้อนจนเกินไป

11. ถอนการติดตั้งแอพฯ ที่ไม่ต้องการทิ้งไป

ถอนการติดตั้งแอพฯ ที่ไม่ต้องการทิ้งไป

เราไม่ควรที่จะติดตั้งแอพฯ ต่างๆ มากมายหากคุณไม่ต้องการ เพราะจะมีการทำงานเบื้องหลังอย่างมากและกินแบตฯ ไปอย่างไม่คุ้มค่า ดังนั้นผู้ใช้ควรถอนการติดตั้งแอพฯ ที่ไม่จำเป็นออกไป ให้เรียบร้อย

เเละนี้คือวิธีการประหยัดเเบตเตอรี่ที่ดีที่สุด เป้นวิธีเเบบง่ายๆเเต่ทำเเล้วได้ผลจริงๆ ทุกคนสามารถที่จะทำได้โดยไม่ยุ่งยาก หรือซับซ้อนอะไรมากมาย ซึงถ้าหากว่าผู้ที่ใช้งานสามารถทำได้ตามขั้นตอนที่เราได้เเจ้งไปนั้น ก็จะทำให้คุณฬช้สมาร์ทโฟน ของคุณได้นานยิ่งขึ้น โดยที่คุณไม่จำเป็นที่ต้องชาร์ทเเบตบ่อยๆ อีกต่อไปเเล้วค่ะ

กวาง จิรพรรณ พลิกชีวิตด้วยความเชื่อมั่นและเคารพในตัวเอง อยครั้งที่คนเรามักปล่อยให้ความรู้สึกไม่เชื่อมั่นในตัวเอง เข้ามาครอบงำจิตใจ จนกลัวการเริ่มต้น หรือไม่กล้าที่ก้าวข้ามอะไรบางอย่างในชีวิต ? เพราะคิดว่าตัวเองคงดีไม่พอเท่าใคร

บทความเเนะนำ : ใบเตย สารพัดประโยชน์ ที่ไม่ควรมองข้าม!!